หลากปัญหาคุณแม่ผู้มีบุตรยาก...เจอปัญหานี้ให้เทคโนโลยีการแพทย์ช่วยดีกว่า!

 

หลากปัญหาคุณแม่ผู้มีบุตรยาก...เจอปัญหานี้ให้เทคโนโลยีการแพทย์ช่วยดีกว่า!

 

 

หลากปัญหาคุณแม่ผู้มีบุตรยาก...เจอปัญหานี้ให้เทคโนโลยีการแพทย์ช่วยดีกว่า!

 

ปัญหาการมีบุตรยากเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น ปัญหาทางด้านสุขภาพของคุณแม่ ไม่ว่าจะเป็นการมีปีกมดลูกข้างเดียว ซึ่งคุณแม่ที่มีบุตรยากในกรณีนี้คงจะสงสัยว่าจะสามารถตั้งครรภ์ คำตอบก็คือสามารถมีลูกได้แน่นอนค่ะ เพราะถึงแม้ว่าปีกมดลูกจะเหลือเพียง 1 ข้าง แต่ว่าร่างกายก็ยังคงผลิตฮอร์โมนสำหรับการตกไข่ และก็ยังคงสามารถมีประจำเดือนได้ปกติ ดังนั้นการมีปีกมดลูกข้างเดียวจึงไม่ใช่สาเหตุของการมีบุตรยากแต่อย่างใด

 

ในกรณีที่มีเพศสัมพันธ์แบบปกติ (เฉลี่ยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง) ไม่มีการคุมกำเนิดเกิน 6 เดือน แต่ก็ยังไม่ตั้งครรภ์ ภาวะนี้ถือว่าเข้าข่ายเสี่ยงต่อการมีบุตรยากด้วยเช่นกัน ซึ่งก็มีหลากสาเหตุ เช่น ฝ่ายชายอาจจะมีน้ำเชื้อที่น้อยเกินไปหรือน้ำเชื้อไม่มีคุณภาพ หรือฝ่ายหญิงไข่ไม่มีคุณภาพ เปลือกไข่หนาแข็ง ท่อนำไข่ตัน การติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน มีถุงน้ำรังไข่หรือช็อกโกแลตซีส ดังนั้นจึงควรจะเข้ารับการตรวจจากแพทย์จากโรงพยาบาลและคลินิกเฉพาะทางผู้เชี่ยวชาญต่อไป

 

หรือปัญหาท่อนำไข่ตันจะตั้งครรภ์ได้หรือไม่ ก่อนอื่นต้องอธิบายก่อนว่า ท่อนำไข่คือ ปีกมดลูก เป็นท่อเล็ก ๆ ที่อยู่สองข้างมดลูก ทำหน้าที่เป็นทางผ่านของไข่ให้สามารถเข้ามาปฏิสนธิกับอสุจิ จากนั้นจะเดินทางต่อเพื่อไปฝังตัวที่โพรงมดลูก ดังนั้น หากท่อนำไข่มีความผิดปกติที่ส่วนใดส่วนหนึ่ง ไข่จะไม่สามารถเดินทางมาปฏิสนธิกับอสุจิได้ แต่ในกรณีที่ท่อนำไข่เกิดการตีบตันนั้น แม้อสุจิจะยังสามารถเล็ดลอดเข้าไปปฏิสนธิกับไข่ได้ แต่จะไม่สามารถเดินทางต่อไปเพื่อฝังตัวที่มดลูกได้

 

โดยสาเหตุของท่อรังไข่ตีบตัน สามารถเป็นได้จากการติดเชื้อในอุ้งเชิงกรานหรือปีกมดลูกอักเสบ จนส่งผลทำให้ท่อนำไข่ตัน บิดเบี้ยว เยื่อบุภายในเสียหาย หรือการผ่าตัดในช่องท้อง เช่น การผ่าตัดไส้ติ่ง เนื้องอกมดลูก เป็นต้น นอกจากนี้ ผู้มีประวัติการติดเชื้อรุนแรง ปีกมดลูกอักเสบ เคยทำแท้ง ปวดท้องประจำเดือนมากผิดปกติ เป็นหรือเคยเป็นช็อกโกแลตซีส ก็เกิดอาการท่อนำไข่ตีบตันได้เช่นกัน

 

เบื้องต้นของวิธีการรักษาท่อรังไข่ตีบตันนั้นจะต้องตรวจเช็กด้วยการฉีดสีเพื่อตรวจสอบว่าท่อนำไข่ของผู้ป่วยนั้นมีความผิดปกติหรือไม่ และการส่องกล้องเพื่อตรวจเช็กสภาพความผิดปกติของท่อนำไข่ จากนั้นจึงจะทำการรักษาอาการท่อนำไข่ตีบต่อไป ซึ่งการรักษาจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนด้วยกัน คือ การผ่าตัดท่อนำไข่ ปัจจุบันนิยมใช้การผ่าตัดผ่านกล้องเพื่อเปิดรูใหม่ของท่อนำไข่ ในกรณีนี้หากไม่จำเป็นแพทย์มักจะไม่เลือกใช้ ส่วนอีกวิธีก็คือ การใช้เทคโนโลยีเจริญพันธุ์หรือที่เรียกว่าการทำ IVF หรือ ICSI ซึ่งนิยมมากกว่า

 

ทั้งสองกรณีข้างต้นสามารถแก้ความกังวลของคุณแม่ผู้มีบุตรยากให้ตั้งครรภ์ได้ ด้วยการนำเอาวิธีการทางการแพทย์จากโรงพยาบาลและคลินิกเฉพาะทางด้านภาวะการมีบุตรยากเข้ามาเพิ่มโอกาสของการปฏิสนธิ ทดแทนวิธีทางธรรมชาติที่ไม่ประสบความสำเร็จ ปัจจุบันคุณพ่อคุณแม่ที่อยากมีบุตร แต่มีบุตรยาก ปล่อยตามธรรมชาติมานานแต่ยังไม่ตั้งครรภ์สักที  สามารถแก้มีบุตรยากด้วยวิธี เช่น การฉีดน้ำเชื้อเข้าสู่โพรงมดลูกโดยตรง หรือที่เรียกว่า IUI, การทำเด็กหลอดแก้ว ที่เรียกว่า IVF และ ICSI หรืออิ๊กซี่ ซึ่งราคาก็จะมีความแตกต่างกันไปตามวิธีการรักษา

 

การทำเด็กหลอดแก้วหรือ In vitro fertilization (IVF)คือ วิธีการรักษาภาวะมีบุตรยากโดยอาศัยการปฏิสนธินอกร่างกาย ซึ่งจะมีการฉีดยากระตุ้นไข่และเก็บไข่ จากนั้นจะนำไข่และอสุจิมาใส่รวมกัน แล้วให้อสุจิทำหน้าที่ของตัวเองในการเจาะไข่เข้าไปจนเกิดการปฏิสนธิขึ้นตามธรรมชาติ  ซึ่งการทำเด็กหลอดแก้วนั้นเหมาะสำหรับคู่แต่งงานที่มีบุตรยาก ฝ่ายหญิงมีปัญหาที่ท่อนำไข่และฝ่ายชายมีปัญหาเกี่ยวกับอสุจิ รวมทั้งยังเหมาะกับกรณีที่รักษาภาวะมีบุตรยากด้วยการทำ IUI แต่ไม่สำเร็จ วิธีนี้จะช่วยแก้ปัญหามีบุตรยาก เป็นการเพิ่มโอกาสที่มากขึ้น

 

การทำเด็กหลอดแก้วหรือ IVF เป็นวิธีการรักษาโรคมีบุตรยากด้วยวิธีการปฏิสนธิภายนอกร่างกาย ในหลอดทดลอง จากนั้นจึงนำตัวอ่อนที่ได้มาเพาะเลี้ยงต่อจนอายุ 3-5 วัน จึงนำกลับเข้าสู่ร่างกายฝ่ายหญิง เพื่อให้เกิดการฝังตัวและตั้งครรภ์ต่อไป IVF หรือเด็กหลอดแก้ว ก็เป็นนวัตกรรมที่มีความทันสมัย ซึ่งจะช่วยให้ผู้ที่มีบุตรยากสามารถมีบุตรได้อย่างที่ต้องการ

 

มักมีคำถามว่าเด็กที่เกิดจากวิธีทำเด็กหลอดแก้วหรือ IVF แตกต่างจากเด็กทั่วไปมากน้อยเพียงใด จากการวิจัยของประเทศกลุ่มสแกนดิเนเวียเช่น เดนมาร์ก ฟินแลนด์ นอร์เวย์ และสวีเดน พบว่าไม่มีความแตกต่างใดจากทารกที่เกิดโดยวิธีธรรมชาติ มีอัตราความพิการแต่กำเนิดไม่แตกต่างกัน แต่อาจจะมีน้ำหนักแรกเกิดน้อยกว่า ซึ่งสิ่งนี้คงจะต้องเป็นว่าที่คุณพ่อคุณแม่ที่จะช่วยดูแลลูกน้อยให้มีน้ำหนักเพิ่มขึ้น

 

การทำเด็กหลอดแก้วเหมาะกับคู่สมรสที่มีปัจจัยส่งผลให้มีบุตรยาก เช่น คุณแม่มีพังผืดในอุ้งเชิงกราน, เยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่ ท่อนำไข่อุดตันหรือถูกทำลาย  มีภาวะไม่ตกไข่หรือไข่ตกช้าเนื่องจากภาวะหรือโรคบางอย่างที่ทำให้ระบบฮอร์โมนผิดปกติไป และคุณพ่อที่มีมีปัญหาเกี่ยวกับคุณภาพของอสุจิ ได้แก่ จำนวนน้อย รูปร่างผิดปกติ เคลื่อนที่ไม่ดี เป็นต้น

 

อัตราความสำเร็จในการตั้งครรภ์ในการทำเด็กหลอดแก้วหรือ IVF นั้นขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีหรือวิธีการแล้วความร่วมมือกันของสามีภรรยาในการให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ให้ความร่วมมือในการรับการรักษาในขั้นตอนต่าง ๆ ร่วมกัน มาเป็นเพื่อนภรรยาทุกครั้ง ที่แพทย์นัดเท่าที่จะทำได้ อาจจะช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ให้สูงขึ้น วิทยาการทางการแพทย์ของการทำเด็กหลอดแก้ว หรือ IVF กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด ซึ่งเป็นวิธีที่ใช้เทคโนโลยีเครื่องมือมากกว่าวิธีอื่น มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง แต่ก่อนที่จะทำเด็กหลอดแก้วนั้น อาจจะลองรักษาด้วยวิธีอื่นเช่น การฉีดเชื้อผสมเทียม การกระตุ้นไข่ การผ่าตัด แต่การทำ IVF ไม่ใช่จะสำเร็จเสมอไป ทุก ๆ ครั้งที่ย้ายตัวอ่อนจะมีอัตราสำเร็จเฉลี่ยเพียง 35% ดังนั้นต้องเผื่อใจในกรณีที่ไม่สำเร็จด้วย แต่ไม่ว่าจะมีโอกาสสำเร็จน้อยเพียงใด คนที่อยากมีบุตรก็จำเป็นต้องจ่ายเงินเพื่อลองดูสักครั้ง

 

อย่างไรก็ตาม การรักษาการมีบุตรยากมิได้มีแต่เพียงการทำเด็กหลอดแก้วหรือ IVF เท่านั้น แต่ยังมีวิธีการอื่น ๆ ด้วย ซึ่งเหมาะกับอาการป่วยของแต่ละคู่ ในมุมที่แตกต่างกันไป ซึ่งสามารถเปรียบเทียบ ข้อดี–ข้อเสียของการทำเด็กหลอกแก้ว และเทคโนโลยีที่ช่วยเรื่องการมีลูกแบบอื่น ๆ ด้วย อย่างเช่น

 

การทำ IUI (Intra uterine insemination)คือ การฉีดน้ำเชื้อเข้าสู่โพรงมดลูกโดยตรงผ่านปากมดลูกเข้าไป ซึ่งน้ำเชื้ออสุจิที่ฉีดเข้าไปนั้น จะผ่านการคัดกรองตัวที่มีคุณภาพมาก่อนหน้า ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีรักษาผู้มีบุตรยากที่ง่ายกว่า IVF มีค่าใช้จ่ายที่ไม่สูงมาก จึงเป็นอีกทางเลือกที่ดีในการเริ่มต้นรักษาภาวะมีบุตรยาก ส่วนข้อจำกัดในการรักษาภาวะมีบุตรยากด้วยการทำ IUI ก็มีเพียงเรื่องท่อนำไข่ของฝ่ายหญิง นั่นคือ ท่อนำไข่ของฝ่ายหญิงจะต้องมีความปกติ ไม่มีการตันของท่อนำไข่ ส่วนฝ่ายชายควรจะมีน้ำเชื้อที่ปกติด้วย

 

คุณพ่อคุณแม่ที่มีภาวะมีบุตรยากแต่อยากตั้งครรภ์ หากเข้าเกณฑ์เหล่านี้ก็ถือว่าเหมาะสมที่จะทำรักษาภาวะมีบุตรยากด้วยวิธี IUI นั่นคือ ฝ่ายหญิงอายุไม่ควรเกิน 30 ปี ท่อนำไข่ปกติ(ไม่ตัน) อย่างน้อย 1 ข้าง เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัว ขั้นต่ำ 7 มม. ส่วนฝ่ายชายให้ดูว่า คุณภาพน้ำเชื้อดี ทั้งปริมาณ ความเข้มข้น และว่ายไปข้างหน้าปริมาณมาก ๆ (จำนวนตัวอสุจิที่เคลื่อนไหว : Total motile sperm(TMS) อย่างต่ำ 10 ล้านตัว)

 

ข้อดีของการทำ IUI เป็นการรักษาภาวะมีบุตรยากที่ใกล้เคียงกับวิธีธรรมชาติและมีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก เหมาะสำหรับการเริ่มต้นรักษาภาวะมีบุตรยากได้ดี โดยเฉพาะคู่แต่งงานที่ฝ่ายหญิงมีภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดปกติ หรือมีปัญหาการตกไข่ เพราะวิธีนี้จะช่วยแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด IUI เป็นวิธีที่รักษาผู้มีบุตรยากได้ง่ายกว่า IVF มีค่าใช้จ่ายที่ไม่สูงมากจึงเป็นอีกทางเลือกที่ดีในการเริ่มต้นรักษาภาวะมีบุตรยาก แต่การทำ IUI จะมีโอกาสสำเร็จได้นั้น ต้องอาศัยมดลูก รังไข่ ไข่ และอสุจิที่ปกติเพียงหรือผิดปกติเพียงเล็กน้อย และจำเป็นต้องมีท่อนำไข่ที่ใช้การได้ การบำรุงเตรียมตัวล่วงหน้า บำรุงไข่ บำรุงอสุจิไปก่อนกระตุ้นไข่และเก็บเชื้อ ร่วมกับการเตรียมผนังมดลูกให้แข็งแรง รวมทั้งได้รับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางสามารถช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ให้สูงขึ้นได้

 

อย่างไรก็ตาม แนะนำให้ฉีด IUI ไม่เกิน 4 รอบ ถ้ายังไม่สำเร็จควรเปลี่ยนวิธีการรักษา โดยที่ในแต่ละรอบที่ฉีดน้ำเชื้อ IUI ต้องเป็น IUI ที่มีประสิทธิภาพ ฟองไข่ (follicle) ต้องมีขนาด 16-18 มม.ขึ้นไป และไข่ที่โตเต็มที่ต้องอยู่ข้างเดียวกับท่อนำไข่ ความหนาเยื่อบุโพรงมดลูก ควรต้องหนาขั้นต่ำ 7 มม. น้ำเชื้อเก็บได้ดี ( จำนวนตัวอสุจิที่เคลื่อนไหว: Total motile sperm อย่างต่ำ 10 ล้านตัว) ที่สำคัญควรฉีดน้ำเชื้อได้ใกล้เคียงวันไข่ตกมากที่สุด

 

สำหรับ ICSI หรือที่อ่านว่า อิ๊กซี่ ย่อมาจากคำว่า Intracytoplasmic sperm injectionหมายถึง วิธีการช่วยการมีบุตรยากโดยการปฏิสนธินอกร่างกาย เป็นเทคนิคทางห้องปฏิบัติการเลี้ยงตัวอ่อน โดยการเลือกอสุจิภายใต้กล้องกำลังขยายสูงมากที่สามารถเห็นรายละเอียดความสมบูรณ์ของอสุจิได้เพิ่มขึ้น แล้วใช้เข็มแก้วขนาดเล็ก ดูดเลือกอสุจิขึ้นมาหนึ่งตัว แล้วใช้เข็มนั้นเจาะและฉีดอสุจิเข้าไปในไข่เพียงใบเดียว เพื่อช่วยให้เกิดการปฏิสนธิได้ง่ายขึ้น วิธีนี้เป็นวิธีที่ที่ทำได้ง่าย ไม่ทำให้ผู้รับการรักษารู้สึกเจ็บ เหมาะสำหรับผู้มีบุตรยากทั้งฝ่ายชายและหญิง

 

สำหรับคุณแม่จะเริ่มจากการฉีดกระตุ้นไข่ในทุก ๆ วัน โดยเริ่มวันที่ประจำเดือนมาวันที่ 2-3 รวมเป็นเวลาประมาณ 10-12 วัน เพื่อให้ได้ไข่มากกว่าในภาวะปกติที่จะมีไข่ 1 ฟองต่อรอบเดือน ซึ่งแพทย์จะฉีดยาจนได้ไข่ที่โตเต็มที่ โดยการตรวจติดตามด้วยการเจาะเลือดและอัลตราซาวด์ทุก 3-4 วัน เพื่อกำหนดวันเก็บไข่ ซึ่งจะใช้เข็มเจาะดูดออกทางช่องคลอด ไข่ที่ถูกเก็บออกมาจะถูกนำไปเตรียมให้พร้อมสำหรับการปฏิสนธิโดยวิธี ICSI หรืออิ๊กซี่ ไม่ต้องกังวลว่าจะเจ็บเนื่องจากขั้นตอนนี้จะมีการให้ยาสลบร่วมด้วยและจะไม่มีแผลทางหน้าท้องแน่นอน

 

สำหรับคุณพ่อที่มีบุตรยาก แพทย์จะเริ่มเก็บน้ำเชื้อในวันเดียวกันกับวันที่คุณแม่เก็บไข่ ซึ่งน้ำเชื้อที่ได้มา จะต้องผ่านขั้นตอนการเตรียมเพื่อคัดเลือกเฉพาะอสุจิที่สมบูรณ์แข็งแรง โดยใช้กล้องจุลทรรศน์ที่มีกำลังสูงขยายดูรูปร่างหรือคัดเลือกโดยวิธีเฉพาะอื่น ๆ เพื่อหาตัวอสุจิที่ดีที่สุด แล้วจึงนำอสุจิตัวนั้นมาปฏิสนธิ ด้วยวิธีการ ICSI หรืออิ๊กซี่กับฟองไข่ที่เก็บได้ในขั้นตอนต่อไป

 

ฟังแบบนี้แล้วผู้มีบุตรยากหลายคนอาจสงสัยว่า ระหว่างการทำเด็กหลอดแก้วหรือ IVF และการทำอิ๊กซี่หรือ ICSI หรืออิ๊กซี่ แตกต่างกันอย่างไร สองวิธีนี้จะเหมือนกันตรงที่ ทั้งสองวิธีจะเป็นการรักษาภาวะมีบุตรยากโดยอาศัยการปฏิสนธินอกร่างกาย ต้องผ่านขั้นตอนการฉีดยากระตุ้นไข่ และการเก็บไข่เหมือนกัน แต่ความแตกต่างก็คือ ขั้นตอนในการปฏิสนธิ ในการทำเด็กหลอดแก้วหรือ IVF จะเป็นการนำไข่และอสุจิมาใส่รวมกัน แล้วให้อสุจิทำหน้าที่ของตัวเองในการเจาะไข่เข้าไปแล้วเกิดการปฏิสนธิขึ้นตามธรรมชาติ ในขณะที่การรักษาแบบ ICSI หรืออิ๊กซี่ จะเป็นการใช้เข็มแก้วขนาดเล็กฉีดอสุจิหนึ่งตัวเข้าไปในไข่ 1 ใบ เพื่อเพิ่มโอกาสในการปฏิสนธิ

 

การทำ ICSI หรืออิ๊กซี่ เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหามีบุตรยาก แต่งงานมาหลายปี ลองรักษาด้วยวิธีอื่น เช่น IUI มาแล้วหลายครั้งแต่ก็ไม่สำเร็จ คู่สามีภรรยาที่มีอายุมากกว่า 35 ปี ผู้ชายที่เป็นหมัน น้ำเชื้อน้อย แพทย์จะทำการดูดน้ำเชื้อออกมาจากอัณฑะ แล้วนำมาเข้าสู่กระบวนการทำ ICSI ต่อไป หรือในผู้ชายอสุจิไม่แข็งแรง  หรือผู้หญิงที่มีปัญหาที่มดลูก ตัดปีกมดลูก ท่อนำไข่ตีบตัน คนที่อายุเยอะ คนที่มีปัญหาด้านสุขภาพ เช่น คนที่มีกลุ่มอาการถุงน้ำจำนวนมากในรังไข่ (PCOS) ก็เหมาะที่จะทำ ICSI เช่นกัน 

 

อ้างอิง

https://worldwideivf.com/faq/can-you-get-pregnant-with-one-uterus/

https://bit.ly/3kuUxjW

 

 

สอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรักษาภาวะมีบุตรยาก

กับศูนย์รักษาผู้มีบุตรยากจินตบุตร